โวยตร.ย่ำยีผู้ต้องหา-ขึ้นป้าย"อมนุษย์

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6776 ข่าวสดรายวัน
http://www.matichon.co.th/khaoso ... 09TMHdOaTB4T0E9PQ==

โวยตร.ย่ำยีผู้ต้องหา-ขึ้นป้าย"อมนุษย์"

"วิสุทธิ์"อีก แถลงข่าว จับ"ยาบ้า"

พิลึกอีก- พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.อ่างทอง แถลงจับผู้ต้องหาค้ายาบ้า ขึ้นป้ายประจาน 2 ผู้ต้องหาเป็น"เดนมนุษย์" กับ"อมนุษย์"แทนเขียนชื่อ ก่อนหน้านี้เคยแถลงคดีจับยาบ้าให้ผู้ต้องหาคาบซองยาบ้ามาแล้ว


อีกแล้วผู้การอ่างทอง"วิสุทธิ์ วานิชบุตร" สั่งเขียนชื่อผู้ต้องหาค้ายาบ้าว่า"อมนุษย์" กับ"เดนมนุษย์" ระหว่างนั่งโต๊ะแถลงข่าวกับรองผู้ว่าฯ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งถูกตำหนิเรื่องให้ผู้ต้องหาคาบยาบ้าระหว่างแถลงข่าวมาแล้ว เจ้าตัวอ้างไม่ได้ประจานแต่ต้องการให้สำนึก เพราะพวกนี้ถือว่าทำลายชาติ ด้านรองประธานกก. สิทธิ์ สภาทนายฯ ยันละเมิดสิทธิ์ชัดเจน เพราะแม้ผู้ต้องหาจะทำความผิด แต่ตำรวจไม่มีสิทธิ์ทำให้อับอายแบบนี้ ฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาปล่อยให้ทำเรื่องซ้ำขึ้นอีกได้อย่างไร

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. นายวีระ รอดชีวัน รองผู้ว่าฯ อ่างทอง พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ภ.จว.อ่างทอง และพ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุปผา รอง ผบก. ภ.จว.อ่างทอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมพงษ์ หรือโชค ฟังฮาด อายุ 26 ปี บ้านอยู่หมู่ 3 ต.หนองผือ อ.เขมราช จ.อุบลราชธานี, นายศักดิ์ศิลป์ หรือเต้ ยินดี อายุ 34 ปี บ้านอยู่หมู่ 10 ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้า 38,000 เม็ด เงินสดล่อซื้อ 5 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ถฎ 8904 กรุงเทพฯ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมได้ที่ถนนสายเอเชีย หมู่ 1 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง สอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนแถลงข่าวพล.ต.ต. วิสุทธิ์สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิมพ์ป้ายชื่อผู้ต้องหาวางบนโต๊ะ แต่แทนที่จะใช้ชื่อผู้ต้องหาที่ถูกจับ กลับใช้ชื่อคำว่า "เดนมนุษย์" และ "อมนุษย์" มาให้ผู้ต้องหาเลือกว่าใครจะใช้ชื่อใด นายสมพงษ์เอ่ยปากทันทีขอเลือกคำว่าเดนมนุษย์ นายศักดิ์ศิลป์ จึงใช้ชื่อว่าอมนุษย์

พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวว่า สืบทราบว่ามีนายทุนค้ายาบ้าชาวลาวชื่อนาย "ต" มีบ้านพักอาศัยอยู่ตรงข้าม อ.เขมราช ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง จึงวางแผนล่อซื้อและจับกุมตัวแต่ปรากฏว่านาย "ต" ว่าจ้างผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่เป็นคนไทยในราคา 1 แสนบาท นำยาบ้ามาส่งแทน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อจับกุมผู้ต้องหาพยายามขับรถแหกวงล้อมเพื่อหลบหนีและขับรถพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งยาบ้าจำนวนดังกล่าวหากถูกจำหน่ายจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท และจะขยายผลจับนายทุนชาวลาวมาดำเนินคดีต่อไป

ระหว่างการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการใช้ป้ายชื่อคำว่า "เดนมนุษย์ และ "อมนุษย์" แทนชื่อจริงของผู้ต้องหาจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พล.ต.ต.วิสุทธิ์เคยแถลงข่าวจับแก๊งยาบ้าแล้วให้ผู้ต้องหาคาบถุงยาบ้าจนถูกผู้บังคับบัญชาและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนตำหนิ พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าวว่า ผู้ค้ายาเสพติดถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ ทำลายชาติ ทำลายแผ่นดิน หากยาเสพติดระบาดไปสู่ลูกหลานแล้วจะมานึกถึงผู้การวิสุทธิ์ คงจะสายไป ผู้ค้าจึงไม่สมควรที่จะได้รับการปกป้อง

"ส่วนที่นำข้อความดังกล่าวมาตั้งหน้าผู้ต้องหาไม่ใช่เป็นการประจาน เพียงอยากให้สำนึกว่าวันนี้ที่เขาถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี เขามีจิตสำนึกในความเป็นมนุษย์ที่เกิดและอาศัยในพื้นแผ่นดินไทยหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้าที่พูดคุยกันผู้ต้องหาพูดว่าเขาทรยศชาติและแผ่นดิน เป็นเบี้ยให้นายทุนประเทศเพื่อนบ้านเพื่อต้องการเงิน ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากหลายปัจจัยที่เผชิญอยู่" ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าว

ด้านนายนคร ชมภูชาติ รองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสม และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะการจับตัวผู้ต้องหาแล้วนำมาแถลงข่าวนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และวัตถุประสงค์ของการแถลงข่าวดังกล่าว ก็เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่ทำเพื่อให้ผู้ต้องหาเกิดความอับอาย เกิดความขายหน้า หรือทำเพียงเพื่อความสะใจ แต่ถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการกระทำที่เกินเลยเกินกว่าเหตุ การกระทำแบบนี้ก็ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้ว่าผู้ต้องหาจะกระทำผิดร้ายแรงขนาดไหน แต่โดยหลักพื้นฐานแล้วผู้ต้องหาต้องไม่ถูกกระทำให้ได้รับความอับอาย

"คนที่ค้ายาหรือติดยาเสพติด พวกนี้ถือว่าเป็นผู้ที่ป่วยทางจิต ทางกาย และทางใจ พวกนี้ต้องได้รับการรักษาเพื่อให้หาย ส่วนขั้นตอนของกฎหมายว่าผิดอะไรมาตราใด ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่มีขั้นตอนชัดเจน การที่เขาค้ายา ติดยา เขาก็เป็นมนุษย์ แต่คนที่จับเขาได้กลับมองว่าพวกนี้เป็นอมนุษย์ เป็นเดนมนุษย์ ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ไม่มองคนด้วยกันว่าเป็นมนุษย์ ชอบที่จะประจานที่การกระทำ โดยไม่ดูถึงตัวบุคคลว่าเค้าจะมีครอบครัวหรือเปล่า ครอบครัวเขาจะคิดอย่างไร" รองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าว

นายนครกล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวยืนยันว่าเข้าข่ายความผิดเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องหาไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องการละเมิดสิทธิ์ ผู้ที่กระทำก็จึงยังไม่ถูกดำเนินการอะไร เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำซึ่งหน้า เรื่องนี้ต้องแยกระหว่างคดีอาญา กับคดีละเมิด อีกทั้งไม่รู้ว่าผู้บังคับบัญชาปล่อยให้กระทำอย่างนี้ซ้ำสองได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องให้สังคมพิจารณาว่าควรหรือไม่