หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

เพื่อนของสมภาร

เพื่อนของสมภาร

บุญมาก" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากวัดป่าหนองหิน มหาสารคาม



เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม ผมกับภรรยาเดินทางจากโคราชไปเยี่ยมญาติที่มหาสารคามตามคำเชิญที่ว่าจะมีการหล่อพระพุทธรูปกลางแจ้งที่วัดป่าหนองหิน ต.โคกก่อ อ.เมือง...ผมได้รับฟังเรื่องแปลกประหลาด ชวนขนหัวลุกที่นั่นเอง


เราพักที่โรงแรมตักสิลา ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมดีที่สุดของจังหวัดนี้


เช้าวันอาทิตย์ญาติก็นำรถปิกอัพมารับผมกับภรรยา แนะนำให้รู้จักกับสุภาพสตรีที่อุตส่าห์ขับรถยนต์มารับชื่อคุณหอมหวล แล้วคณะเราก็รีบเดินทางไปวัดป่าหนองหิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปราวสิบกว่ากิโลเมตรทันที


ตอนแรก ผมนึกว่าจะมีแต่พวกเรากับชาวบ้านไม่กี่สิบคนเท่านั้น แต่ที่ไหนได้...พอเข้าเขตวัดที่ดูเผินๆ คล้ายป่าโปร่ง ก็เห็นรถยนต์หลากหลายสารพัดสี ทั้งรถเก๋ง รถตู้ รถปิกอัพรวมทั้งมอเตอร์ไซค์ จอดเรียงรายกันละลานตา แถมล้นออกมาจนถึงทางเข้า จึงถามญาติว่าเป็นเพราะอะไร? คำตอบที่ได้ยินทำให้อัศจรรย์ใจเอาการ!


วัดป่าแห่งนี้มีท่านสมภารชื่อ ท่านพระครูชัชวาลย์ จตุตมโล เป็นพระที่จำพรรษาอยู่รูปเดียวมาหลายปีแล้ว


เมื่อเข้าไปถึงศาลาที่มีแขกคนที่มาทำบุญมากมาย พระวัดอื่นๆ ได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีสำคัญนี้ มองเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่จะทำพิธีเทปูน แม้ว่าจะเห็นเพียงแบบพิมพ์ภายนอกก็บอกตัวเองว่างามนัก จนต้องยกมือไหว้แม้จะยังไม่เป็นองค์พระสมบูรณ์แบบก็ตาม


ได้ทราบนามว่า "หลวงพ่อบวรมงคล" หน้าตักกว้างราวสองเมตร มีกองทรายและหินพร้อมที่จะผสมปูนสำหรับส่งขึ้นไปเทจากทางพระอุระเบื้องขวาขององค์พระ


ญาติแนะนำให้นมัสการพระอาจารย์เจ้าอาวาส แม้ว่าจะอายุเลยหกสิบไปแล้วก็ยังดูสดชื่น เปล่งปลั่งและอิ่มเอิบด้วยธรรมะของพระบรมศาสดา


ทราบว่าท่านเคยเป็นอาจารย์จากกาฬสินธุ์ แล้วย้ายมาอยู่มหาสารคามเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ครั้นอายุราว 57-58 ก็เกิดเลื่อมใสพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา จึงลางานออกบวชเป็นสาวกของพระชินศรี ครั้นครบพรรษาแล้วก็ซาบซึ้งในความสงบสุขแท้จริงในเพศบรรพชิต ไม่ต้องการสึกหาลาบวชกลับคืนสู่เพศอันต่ำช้าเศร้าหมองอีกต่อไป


เวลาประมาณ 13-14 ปีย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า หลวงพ่อชัชวาลย์ของชาวบ้านโดยทั่วไปครองผ้าเหลืองโดยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ปราศจาก มลทินใดๆ โดยสิ้นเชิง


ก่อนหน้านั้นเคยมีภิกษุมาจำพรรษาและกลายเป็นสมภารเจ้าวัด 2 รูปด้วยกัน!


รูปแรกนั้นมองเผินๆ ก็ดูจะเคร่งครัดในศีล 227 ข้อเป็นอันดี แต่ไม่ช้าไม่นานชาวบ้านก็จับได้ว่าชอบเสพสุรายาเมาเป็นนิจศีล จึงโดนขับไล่ออกจากวัดไป ส่วนรูปต่อมาก็กระทำตนเป็นผู้วิเศษ หรืออวดอุตริมนุสธรรม มีการพ่นน้ำหมากขากน้ำมนต์ ทำเครื่องรางของขลังให้ชาวบ้านบูชา หรือทำปลัดขิกบ้าง กุมารทองบ้าง เพื่อขายเอาเงินเข้ากระเป๋า


จนกระทั่งมาถึงหลวงพ่อองค์ปัจจุบัน...


ชาวบ้านพูดกันว่า บริเวณนั้นเคยเป็นป่าช้าเก่า ศาลาวัดและกุฏิเก่าแก่ของเจ้าอาวาสก็ล้วนแต่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณเมรุเผาศพ โดยเฉพาะด้านหน้าที่ดูเป็นป่าโปร่ง ความจริงก็คือหลุมฝังศพของชาวบ้านในละแวกนั้นเอง


ทั้งการเผาศพและฝังศพเพิ่งจะเลิกราไปสู่ "วัดบ้าน" เมื่อราว 4-5 ปีมานี้เอง!


พระรูปไหนละเมิดศีล ไม่ดำรงตนอยู่ในสมณสารูปโดยเคร่งครัด ก็จะถูกภูตผีต่างๆ เล่นงานเอาจนร้องเอะอะโวยวายกลางดึก จนถูกชาวบ้านขับไล่ในที่สุด


หลวงพ่อชัชวาลย์เล่าให้พวกเราฟังในศาลาสร้างใหม่ ดูโล่งๆ และค่อนข้างอบอ้าว เพราะยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ได้ข่าวว่าตรุษสงกรานต์นี้จะมีคหบดีจากจังหวัดมาต่อสายไฟ หรืออย่างน้อยก็บริจาคเครื่องปั่นไฟให้ ญาติโยมที่มาทำบุญกุศลจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนมากนัก


เรื่องที่หลวงพ่อเล่าก็คือ เมื่อตอนมาอยู่ที่วัดป่าหนองหินใหม่ๆ ได้ขุดศพมากมายขึ้นมากระทำพิธีฌาปนกิจ เพื่อบำเพ็ญกุศลให้ตามประเพณี ปรากฏว่ามีศพทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กๆ ก็มีเกือบสิบศพ...


ผมเหลียวมองความเปล่าเปลี่ยววังเวงเหมือนอยู่ในป่า ทั้งๆ ที่แขก เหรื่อทยอยกันกลับหลังจากเทปูน "เอาบุญ" คนละถังสองถังแล้ว เหลืออยู่ไม่ถึงสิบคน...


ถ้ากลางคืนจะเย็นยะเยือกน่าขนลุกขนพองปานใดหนอ?


"ถึงจะจำวัดอยู่คนเดียวอาตมาก็ไม่เหงาหรอกโยม" หลวงพ่อชัชวาลย์บอกกล่าว เมื่อผมนมัสการถาม "ตอนกลางคืนอาตมาจำวัดอยู่กุฏิเก่าด้านหลัง...ที่ศาลานี่ก็ครึกครื้นเกือบทั้งคืน เพราะมีเด็กๆ เกือบสิบคนมาวิ่งเล่นกันสนุกสนาน เป็นเพื่อนอาตมาทุกคืนแหละโยม"


ใครไม่กลัวผีก็แล้วไป แต่สำหรับผมต้องยอมรับตรงๆ ว่า ขนหัวลุกครับ!
นามปากกา    ลูกพีช

TOP

มีเรื่องจะเล่าเหมือนกันคะ
สมภารกินไก่วัด
--แค่คำขอบคุณสักนิด จะลำบากไปไหมคะ--

TOP

(หายไปนาน ตอนนี้กลับมาเล่นอีกแล้ว ข่าวสารใหม่ๆ น่าสนใจดีมากเลยนะ คิดถึงเพื่อนๆจัง อิอิ)

ง่ะ น่ากลัวอ่ะ

TOP

ขอบคุณมากครับ

TOP