รักต่างวัยมีจริง-หนุ่ม26แต่งยายวัย73

หลังคบหา มา3เดือน ฮือฮาทั้ง นครพนม
ชาวนครพนมฮือฮาวิวาห์ต่างวัย หนุ่มอายุ 26 แต่งม่ายสาวรุ่นยาย อายุ 73 เจ้าสาวเปิดใจเพิ่งรู้จักเจ้าบ่าวรุ่นหลานเมื่อ 3 เดือนก่อน ในร้านปลาเผาริมโขง ที่ฝ่ายชายทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ แล้วเข้ามาพูดคุยหยอกล้อเชิงชู้สาว ตื๊อขอเบอร์โทรศัพท์จนใจอ่อนให้ไป ก่อนคุยกันมาเรื่อยจนเกิดเป็นความรัก เพราะผู้ชายเป็นคนร่าเริง ปากหวาน สุดท้ายตกลงปลงใจแต่งงานกันในที่สุด ยอมรับลูกสาวเป็นห่วงแม่ถูกหลอก เลยไม่อยากให้จัดงานใหญ่โต ฝ่ายเจ้าบ่าวเผยเคยมีแฟนแต่ถูกหักอก มาเจอฝ่ายหญิงนิสัยดี เลยให้แม่ไปสู่ขอตามประเพณี

ฮือฮาวิวาห์ต่างวัยเจ้าบ่าว 26 เจ้าสาว 73 ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนสารภาณนิมิต เขตเทศบาลเมือง จ.นครพนม ว่ามีพิธีแต่งงานของบ่าวสาวต่างวัย โดยฝ่ายหญิงอายุกว่า 70 ปี ส่วนเจ้าบ่าวอายุ 26 ปี เป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านและแขกเหรื่อ ที่มาร่วมงานซึ่งจัดขึ้นที่บ้านเลขที่ 89 ชุมชนสารภาณนิมิต ถนนสารภาณนิมิต จึงเดินทางไปสังเกตการณ์พบบรรดาญาติและลูกหลานของคู่บ่าวสาว กำลังนั่งล้อมวงทำพิธีบายศรีสู่ขวัญตามประเพณี โดยมีเพื่อนบ้านและญาติสนิทมิตรสหายประมาณ 60 คน ทยอยมาร่วมงานที่ทางเจ้าภาพจัดเตรียมโต๊ะจีนไว้เลี้ยงฉลอง

กระทั่งเวลา 17.30 น. พิธีจึงเริ่มขึ้น ฝ่ายเจ้าสาวคือนางทองสุข พุทธวันท์ อายุ 73 ปี สวมชุดสีโอลด์โรส ขณะเจ้าบ่าวคือ นายสมพร จันทรวงศ์ อายุ 26 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานน้ำดื่มเรนโบว์ อยู่ใกล้บ้านเจ้าสาวไม่ถึง 100 เมตร สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ มีนางแตง จันทรวงศ์ อายุ 45 ปี แม่เจ้าบ่าวพร้อมด้วยญาติพี่น้องร่วมเป็นสักขีพยาน ขณะที่ฝ่ายเจ้าสาวมีนางทองหยิบ ทับเกตุ อายุ 80 ปี พี่สาวและเครือญาติมาร่วมยินดีเช่นกัน

หลังประกอบพิธีเจ้าบ่าวและเจ้าสาวผลัดเปลี่ยนกันสวมแหวน นับเงินสินสอดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 20 ฉบับ รวม 20,000 บาท แหวนทองหนัก 6 สลึง จากนั้นนายสวย สาผาง พราหมณ์ในพิธีนำไข่ต้ม 1 ฟอง แบ่งครึ่ง ป้อนไข่อ้ายด้วยมือขวาให้เจ้าบ่าว และป้อนไข่นางด้วยมือซ้ายให้เจ้าสาว ตามความเชื่อให้อยู่กันยืดยาว ก่อนทั้งคู่จะผลัดกันหอมแก้มกันคนละ 3-4 ครั้ง

นางทองสุข เจ้าสาววัยคุณยายกล่าวว่า เคยแต่งงานมีสามีตั้งแต่อายุ 18 ปี หลังพบรักครั้งแรกในแคมป์ทหารจีไอ ที่สนามบินนครพนม มีลูกด้วยกัน 4 คน เสียชีวิต 1 คน ปัจจุบันเหลือลูกสาว 3 คน คือนางแดงต้อย ยอดวิเศษ อายุ 55 ปี นางตุ๊กตา จันโททัย อายุ 51 ปี และนางฐานเอื่อย ฮามแก้ว อายุ 35 ปี ทุกคนมีครอบครัวกันหมดแล้ว ส่วนอดีตสามีเสียชีวิตเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะนั้นทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์นาน 11 ปี

เจ้าสาววัย 73 กล่าวว่า หลังครองโสดมานานกว่า 20 ปี ระหว่างนั้นมีพ่อค้า คหบดี นักการเมืองหลายคนมารุมจีบ แต่ไม่เคยสนใจ กระทั่งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมกับญาติ 5-6 คนไปกินอาหารที่ร้านลำพูนปลาเผาริมโขง จึงได้พบรักกับนายสมพร เด็กเสิร์ฟซึ่งมาพูดคุยหยอกล้อเชิงชู้สาว และยังตื้อขอเบอร์โทรศัพท์ ตนจึงให้ไป และจากนั้นจึงติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา นายสมพรมีนิสัยร่าเริง พูดคุยเก่งและปากหวาน มักจะสอบถามทุกข์สุขด้วยความห่วงใยว่ากินยา กินข้าว นอนแล้วหรือยัง เขาเป็นเด็กแต่ห่วงเราเหมือนเป็นพ่อคนที่สอง

นายทองสุขกล่าวต่อว่า เมื่อความรักเริ่มสุกงอมตนจึงพาญาติไปดูตัวเจ้าบ่าวที่อ.ท่าอุเทน และขออนุญาตลูกสาว 3 คน ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร ลูกสาวคนโตยังมาช่วยทำพานบายศรีให้ด้วยซ้ำ เรา 2 คนรักและเข้าใจกัน ไม่มีใครขัดขวางได้ อะไรจะเกิดก็ไม่สนใจ เพียงแต่ลูกๆ ขอร้องว่าห้ามจัดงานสมรสอย่างเอิกเกริกเพราะกลัวชาวบ้านจะนินทา และลูกยังห่วงฝ่ายชายมาหลอก

ส่วนนายสมพร กล่าวสั้นๆ ว่า เคยมีแฟนมาแล้วแต่ถูกหักอก ชอบนิสัยเจ้าสาว คบกันมา 3 เดือนจึงเกิดเป็นความรัก จึงนำนางแตง ผู้เป็นแม่มาสู่ขอตามประเพณี

ขณะที่นางทองหยิบ พี่ของเจ้าสาวกล่าวว่า ดีใจที่น้องมีความสุข เป็นความสุขในโลกครั้งสุดท้าย เคยเห็นข่าวฝรั่งแก่เข้าโลงใกล้จะตายยังแต่งงาน ไม่เป็นเรื่องแปลกอะไรและขออวยพรให้ 3 ปีมีลูก 2 คน

ด้านนางฐานเอื่อย ลูกสาวคนเล็กของนางทองสุข กล่าวว่า เป็นความสุขของแม่จึงไม่อยากขัดขวาง และได้เรียกเจ้าบ่าวมาคุยกับญาติๆ จนเข้าใจกันดีแล้วจึงยอม แต่แม่มีโรคประจำตัวคือโรคความดันสูงและหอบหืด ไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายในช่วงเช้าก่อนจะมาเข้าพิธีแต่งงาน

คนใกล้ชิดเจ้าสาวเผยว่า ในอดีตสมัยนางทองสุขยังเป็นสาวรุ่น มีหน้าตาสวย เคยได้รางวัลในการเข้าประกวดเทพีต่างๆ มาแล้ว เช่นตอนอายุ 16 เข้าประกวดนางงามต้นเทียนพรรษา ได้ที่ 2 พออายุ 17 ปีได้รางวัลที่ 3 นางงามเทพี และตอนอายุ 19 ปี ได้ที่ 3 จากการประกวดนางงามตำรวจ ล่าสุดเข้าประกวดคุณแม่สงกรานต์ เมื่อปีพ.ศ. 2551 คว้ารางวัลที่ 1 และยังได้รับโล่รางวัลแม่ดีเด่น ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมเนื่องในวันแม่แห่งชาติปี พ.ศ. 2550 พร้อมโล่รางวัลของชมรมสื่อมวลชนนครพนม ในด้านสังคมและบริการเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2552 ด้วย