หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

คิริทัมโปะนาเบะ มันคืออะไรเอ๋ย

คิริทัมโปะนาเบะ มันคืออะไรเอ๋ย



คิริทัมโปะ" หมายถึง ตัวแทนของอาหารพื้นบ้านประจำจังหวัดอากิตะ เป็นอาหารที่ปรุงโดยนำข้าวสุกมาบด ปั้นพันบนไม้ต้นสน และนำไปย่างไฟ แกะออกจากไม้ หั่นเป็นชิ้นเพื่อให้รับประทานง่าย โดยจะเรียกสภาพก่อนหั่นเป็นชิ้นว่า "ทัมโปะ" พอนำไปหั่นเป็นชิ้นแล้วเรียกว่า "คิริทัมโปะ" โดยหลักแล้ว นำไปต้มในน้ำซุปที่ได้จากโครงไก่ หรือรับประทานโดยทาเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น(มิโสะ)แล้วนำไปย่าง คิริทัมโปะยังเคยเป็นเมนูในอาหารกลางวันของโรงเรียนในจังหวัดอากิตะในฤดูหนาวด้วย "คิริทัมโปะนาเบะ" หรือ หม้อไฟคิริทัมโปะ เป็นเมนูทัมโปะที่ขึ้นชื่อมากที่สุด โดยใช้น้ำซุปที่ได้จากโครงไก่พื้นบ้านที่มีชื่อว่าฮิไนจิโดริ ปรุงรสด้วยโชยุ เหล่าสาเก น้ำตาลทราย เป็นซุปรสโชยุ เครื่องที่นิยมใส่มี 6 ชนิด คือ รากโกะโบ เนื้อไก่ เห็ดไมตาเกะ ต้นหอม ทัมโปะ และ ใบเซริ และก็มีวัตถุดิบต้องห้ามสำหรับใส่เป็นเครื่องคิริทัมโปะนาเบะอยู่หลายชนิด ได้แก่ ผักกาดขาวเพราะจะทำให้มีรสหวานและมีน้ำออกมาจากตัวผัก, เนื้อปลาเพราะจะทำให้รสชาติและกลิ่นเพี้ยน, แครอทเพราะจะทำให้กลิ่นเพี้ยน
และเห็ดหอมเพราะจะทำให้รสชาติและกลิ่นเพี้ยนเช่นกัน วิธีปรุงคือ จะใส่วัตถุดิบที่สุกยากก่อน ซึ่งได้แก่ รากโกะโบ เห็นไมตาเกะ และ เนื้อไก่ ต้มให้เดือด หลังจากนั้น ใส่คิริทัมโปะ และต้นหอม และใส่ใบเซริก่อนที่รสชาติจะซึมเข้าเนื้อ และเนื่องจากคิริทัมโปะจะเละถ้าต้มเป็นระยะเวลานาน เมื่อต้มจนวัตถุดิบสุกได้ที่แล้ว จึงควรรีบตักออกจากหม้อ และด้วยความที่คิริทัมโปะนาเบะเป็นอาหารที่ปรุงรับประทานกันในครัวเรือน จึงไม่กำหนดตายตัวว่าจะต้องใช้เนื้อไก่จากที่ใด เหตุผลที่นิยมใช้ไก่พื้นบ้านฮิไนจิโดริ ก็เป็นเพราะเนื้อไก่ที่เหมาะกับอาหารชนิดนี้ แม้ว่าจะใช้เวลาต้มนาน เนื้อไก่ก็ไม่แข็งตัวจนเกินไป บริษัทในจังหวัดจึงจัดชุดคิริทัมโปะและฮิไนจิโดริออกวางจำหน่ายและประสบความสำเร็จ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คิริทัมโปะนาเบะจึงกลายเป็นอาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดอากิตะที่คุ้นเคยกันอย่างกว้างขวาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทางใต้ของจังหวัดอากิตะจะคุ้นเคยกับคิริทัมโปะนาเบะเท่ากับทางเหนือ เพราะมีบางทฤษฎีกล่าวว่า คิริทัมโปะมีต้นกำเนิดมาจาก มาตางิเรียวริ หรืออาหารนายพรานที่อาศัยอยู่ทางเหนือของจังหวัดอากิตะ โดยให้เหตุผลว่า คิริทัมโปะเป็นเมนูที่รับประทานกัน หลังจากนายพรานกลับจากการล่าสัตว์ที่ภูเขา โดยได้นำข้าวเย็นที่เหลือมาบด ปั้นพันบนไม้นำไปย่าง แล้วจึงนำมาต้มรวมกับไก่ป่าที่ล่ามาได้ ใส่พวกผักป่า และเห็ด ปรุงรสด้วยมิโสะ แต่ก็มีคนแย้งขึ้นว่า ในสมัยก่อน ข้าวจัดว่าเป็นอาหารหรูชั้นเลิศ จึงไม่น่าเชื่อว่า นายพรานผู้ซึ่งต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปล่าสัตว์ในป่าเพื่อใช้ประทังชีวิตจะเป็นผู้คิดเมนูนี้ขึ้น

ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์สิงคโปร  ทัวร์เกาหลี
ทัวร์ฮ่องกง  ทัวร์ยุโรป   ทัวร์ไต้หวัน  
ทัวร์จีน  ทัวร์มาเลเซีย   ทัวร์แอฟริกาใต้
ทัวร์เวียดนาม  ทัวร์กัมพูชา ทัวร์พม่า
ทัวร์ลาว ทัวร์มัลดีฟส์  ทัวร์อินเดีย
ทัวร์เนปาล ทัวร์ภูฏาน  ทัวร์ศรีลังกา
ทัวร์จอร์แดน ทัวร์อินโดนีเซีย  ทัวร์ฟิลิปินส์  ทัวร์ดูไบ
ทัวร์บาหลี  ทัวร์อียิปต์  ทัวร์รัสเซีย
ทัวร์โครเอเชีย  ทัวร์ตุรกี  ทัวร์อเมริกา
ทัวร์ออสเตรเลีย ทัวร์นิวซีแลนด์  ทัวร์บรูไน
Facebook

TOP