หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

แนวโน้มสมาร์ทโฟนปี 2013

แนวโน้มสมาร์ทโฟนปี 2013



สวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ คอลัมน์ตอนแรกของปี 2013 ผมขอพยากรณ์แนวโน้มของวงการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในปีนี้ครับ...

1) สมาร์ทโฟนจีนบุกโลก

ผมคิดว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามากที่สุดของปี 2013 นี้ ไม่ใช่แอปเปิลหรือซัมซุง แต่เป็น “แบรนด์จีน” ที่กำลังหมายมั่นปั้นมือบุกตลาดโลกอย่างจริงจังในปีนี้

สมาร์ท โฟนจีนที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นมือถือคุณภาพต่ำโนเนม แต่เป็นมือถือแบรนด์ดังที่มียอดขายถล่มทลายในจีน ตัวอย่างแบรนด์ที่เด่นๆ ได้แก่ Lenovo, ZTE, Huawei, Meizu, Xiaomi เป็นต้น มือถือแบรนด์ใหญ่อย่าง Lenovo มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองของจีน (เป็นรองแค่ซัมซุง) ในขณะที่ ZTE ก็มีส่วนแบ่งตลาดโลกเป็นอันดับห้า ส่วน Meizu กับ Xiaomi มีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ตัวเองปรับแต่งเอาไว้ หน้าตาสวยงาม และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

จุดเด่นของมือถือแบรนด์จีนเหล่า นี้คือสเปกสุดแรงในราคาถูกเกินคุ้ม ถึงแม้จะเป็นรองแบรนด์ดังๆ ของเกาหลี-ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ในแง่ความน่าเชื่อถือ แต่เราจะเห็นกองทัพมือถือจีนค่อยๆ เจาะตลาดมาอย่างช้าๆ ซึ่งในปีนี้เราน่าจะเห็นแบรนด์ดังจากแดนมังกรสัก 2-3 แบรนด์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครับ

2) มือถือจอใหญ่ครองเมือง

การ บุกเบิกตลาดของ Galaxy Note จากซัมซุง ทำให้มือถือจอใหญ่ระดับ 5 นิ้วขึ้นไปได้รับความนิยมสูง จนต่างประเทศมีคำเรียกมือถือกลุ่มนี้ว่า “แฟบเล็ต” (ย่อมาจาก phone + tablet)

จุด เด่นของมือถือจอใหญ่ขนาด 5 นิ้วคือจอใหญ่สะใจ อ่านเว็บสะดวก พิมพ์ข้อความง่าย ดูรูปชัด และตัวเครื่องที่ใหญ่ขึ้นทำให้ใส่แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ขึ้น แบตอึดใช้งานได้นานกว่าเดิม

ถึงแม้ว่ามือถือใหญ่ขนาดนี้มีข้อเสีย เรื่องการพกพาและการเอื้อมมือไปกดมุมจออยู่บ้าง แต่บวกลบกันแล้วประโยชน์ที่ได้คุ้มค่ากว่ากันมาก (ผมเคยได้มาทดสอบก็สามารถใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้ไม่มีปัญหา)

ความ สำเร็จของ Galaxy Note ทำให้สมาร์ทโฟนสายแอนดรอยด์แทบทุกค่ายแห่กันมาทำมือถือจอใหญ่กันหมด นอกจากแบรนด์จีนที่กล่าวไปแล้ว ค่ายใหญ่ที่ประกาศตัวว่า “ทำแน่” มีแอลจี เอชทีซี และคาดว่าโซนี่หรือโมโตโรลาจะตามมาด้วยเช่นกัน

3) ระบบปฏิบัติการใหม่เปิดตัว

ปี 2012 ความเคลื่อนไหวของวงการมือถือฝั่งซอฟต์แวร์ค่อนข้างอยู่ตัว เพราะตลาดส่วนใหญ่ถูกครอบครองโดยแอนดรอยด์และไอโฟน โดยมีวินโดวส์โฟนของไมโครซอฟท์เป็นตัวสอดแทรก นอกจากสามค่ายนี้แล้วเราแทบไม่เห็นความเคลื่อนไหวของระบบปฏิบัติการตัวอื่นๆ เลย

แต่ปี 2013 จะมีระบบปฏิบัติการหน้าใหม่เข้ามาร่วม “ช่วงชิงแผ่นดิน” อย่างน้อยๆ 4 ตัวครับ

ตัวแรกสุดคือ BlackBerry 10 ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของค่าย BlackBerry สร้างขึ้นใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ออกแบบมาสำหรับจอสัมผัสโดยตรง และใส่ไอเดียใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามามากมาย มันถือเป็น “ความหวังสุดท้าย” ในการกลับมายิ่งใหญ่อีก ครั้งของ BlackBerry เสียด้วย ระบบปฏิบัติการตัวนี้จะเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ช่วงสิ้นเดือนมกราคมนี้ (ถ้ายังไม่รุ่งอีกก็คงต้องเลิกกิจการแล้ว)

ตัวที่สองคือ Sailfish เป็นระบบปฏิบัติการจากบริษัท Jolla ทีมงานเดิมของโนเกียที่แยกตัวออกมา ก่อนหน้านี้โนเกียเคยพัฒนาระบบปฏิบัติการชื่อ MeeGo (ใช้กับมือถือ N9) แต่ยังไม่ทันสมบูรณ์ดี ฝ่ายบริหารก็เปลี่ยนนโยบายไปใช้วินโดวส์โฟนเสียก่อน ทำให้ทีม MeeGo ลาออกมาตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Jolla และตั้งใจบุกตลาดประเทศกำลังพัฒนาเป็นหลัก (โดยเฉพาะจีน) แนวทางของ Sailfish จะใกล้เคียงกับ MeeGo มาก ต้องรอดูว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน

ตัวที่สาม Firefox OS จาก ค่าย Mozilla ผู้สร้างเว็บเบราว์เซอร์ Firefox ระบบปฏิบัติการตัวนี้ใช้แนวคิดใหม่คือ “แอพ” ของระบบนี้คือ “เว็บแอพ” นั่นเอง ส่งผลให้ตัวระบบเล็กและเร็วมากเพราะมีแต่เว็บอย่างเดียว มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้จึงมีราคาถูกมากๆ (แต่การใช้งานจริงต้องรอดูว่าเวิร์กแค่ไหนนะครับ) กลุ่มเป้าหมายเป็นประเทศกำลังพัฒนาเช่นกัน แต่เน้นที่ประเทศสายละตินอเมริกาเป็นหลัก

ตัวที่สี่ Tizen เป็น การจับมือกันของซัมซุงและอินเทล โดยอินเทลยกทีม MeeGo ที่แยกทางกับโนเกีย มาจับมือกับทีม Bada ของซัมซุงเดิม เป้าหมายของซัมซุงคือต้องการสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองเป็นทางเลือกที่ สาม นอกเหนือไปจากแอนดรอยด์และวินโดวส์โฟน (เพื่อลดการพึ่งพิงกูเกิลและไมโครซอฟท์) จุดเด่นของมือถือแพลตฟอร์มนี้คือใช้ซีพียูจากอินเทลเป็นหลัก ซึ่งเป็นความตั้งใจของอินเทลที่ต้องการบุกตลาดสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว

นอกจากนี้เรายังจะเห็น “แอนดรอยด์จีน” จากบริษัทจีนอีกหลายค่ายที่ปรับแต่งแอนดรอยด์ของกูเกิลให้เป็นระบบปฏิบัติ การเฉพาะของตัวเอง ซึ่งในเบื้องต้นน่าจะยังทำตลาดเฉพาะในจีนเป็นหลัก

ใน ภาพรวมแล้ว ระบบปฏิบัติการใหม่ๆ เตรียมเปิดตัวกันอีกมาก แน่นอนว่าตลาดไม่ได้มีพื้นที่เยอะขนาดนั้นสำหรับทุกคน ดังนั้นน่าจะมีระบบปฏิบัติการใหม่อยู่เหลือรอดได้อย่างมากแค่ 1-2 ราย และครองส่วนแบ่งตลาดได้ไม่เยอะนัก



มาร์ค Blognone

ที่มา : http://www.itplaza.co.th/update_ ... id=23742&page=1

TOP