หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับยาคุม ไร้เอสโตรเจน

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับยาคุม ไร้เอสโตรเจน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เวียนหัว...คลื่นไส้...อาเจียน...ไมเกรน...ฝ้าขึ้น...หน้าเป็นสิว...น้ำหนักเพิ่ม...เมนมาผิดปกติ...คัดหน้าอก...         
เหล่านี้เป็นเรื่องปวดหัว ปัญหาใหญ่ของคนกินยาคุม
จะไม่กินก็ไม่ได้ เสี่ยงกับการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จะกินรึ...ร่างกายก็ปั่นป่วน หาทางออกไม่เจอ
เรื่องป่วนเช่นนี้จึงทำให้มีการคิดค้นวิธีที่จะทำให้การ คุมกำเนิดนี้ส่งผลกระทบต่อความผิดปกติที่มีต่อร่างกาย ให้น้อยที่สุด

จากการค้นคว้ายาคุมกำเนิดจึงได้พบว่า ตัวการที่ทำให้เกิดอาการทั้งหลายเหล่านั้นมีสาเหตุหลักมาจากฮอร์โมนที่ชื่อว่า ′เอสโตรเจน′เอสโตรเจน (estrogen) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ร่างกายผลิตขึ้นจากรังไข่ รก และต่อมอะดรีนาลิน เป็นส่วนที่ผลักดันทำให้เกิดลักษณะของความเป็นผู้หญิงทั้งหลาย ทั้งรูปร่าง ผิวพรรณ หน้าอกหน้าใจ ไปจนถึงเป็นส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของมดลูกและเนื้อเยื่อปากมดลูก  ในการทำงานเพื่อคุมกำเนิดนั้น เอสโตรเจนยังต้องทำงานคู่กับฮอร์โมน ′โปรเจสโตเจน′ หรือ′โปรเจสเตอโรน′ตัวหลักในการปรับเยื่อบุโพรงมดลูกก็ได้มีการพัฒนาอย่างมากเช่นกัน

ถ้าเป็นในเชิงธรรมชาติ โปรเจสโตเจนนี้จะเป็นตัวการทำให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่ในช่วงที่ไม่ใช่ ฮอร์โมนตัวนี้จะเป็นตัวปรับเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาขึ้นและจะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน  แต่ถ้าเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อยับยั้งการตั้งครรภ์นั้นเอสโตรเจนจะยับยั้งการตกไข่ ส่วนโปรเจสโตเจนจะทำให้    มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นจนสเปิร์มไม่สามารถเจาะทะลุผ่านเข้าไปได้
ระบบการทำงานที่สอดประสานนั้นน่าจะดีหากไม่มีผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน นี่เองจึงเป็นที่มาที่ทำให้นวัตกรรมยาคุมกำเนิดพัฒนาก้าวไปไกลอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยมีการปรับลดขนาดฮอร์โมนทั้งสองเป็นลำดับ โดยมีการพัฒนาโปรเจสโตเจนตัวใหม่ให้ใกล้เคียงกับฮอร์โมนจากธรรมชาติมากที่สุด ขณะเดียวกับที่ได้มีการลดขนาดเอสโตรเจนให้น้อยลง ๆ จากปริมาณสูงถึง 150 ไมโครกรัม ลดลงต่ำเหลือเพียงแต่ 20 ไมโครกรัม  จนล่าสุดพัฒนาการก้าวไกลจนได้เป็นยาคุมกำเนิดที่ ′ไร้เอสโตรเจน′ ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าเดิม ที่ว่าดียิ่งกว่าเดิมนั้นเป็นเพราะยาคุมแบบไม่มีเอสโตรเจนนี้เคยมีวางตลาดอยู่บ้างแล้ว หากมีประสิทธิภาพในการป้องกันต่ำมากกว่ายาคุมแบบฮอร์โมนรวม

แต่สำหรับตัวใหม่นี้ประกอบด้วย โปรเจสโตเจนสังเคราะห์ ที่เรียกว่า desogestrel 75 ไมโครกรัม ทำให้มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการตกไข่สูงถึง 99% และยังเป็นตัวเร่งในการสร้างมูกที่ปากมดลูก และแม้จะลืมกินยาไปนานถึง 12 ชั่วโมง ยังปิดโอกาสการมีลูกได้ฉมังถึง 1 ใน 1,000 รายทีเดียว โดยมีข้อแม้อยู่ที่ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ

ความดีเด่นของยาคุมตัวนี้ ศ.น.พ.สุรศักดิ์  ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ ผศ.น.พ.มานพชัย ธรรมคันโธ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยรายงานจากการประชุมวิชาการเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดรุ่นใหม่นี้ว่า "พัฒนาขึ้นเพื่อผู้หญิงที่ไม่สามารถทนต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาเม็ดคุมกำเนิดทั่วไป โดยมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์สูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้เอสโตรเจน คนอ้วนหรือผู้ที่มีความเสี่ยงในโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่สูบเยอะ ดื่มเยอะ ผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี และผู้ที่กำลังให้นมบุตร สามารถใช้ยาคุมประเภทนี้ได้โดยจะไม่มีผลต่อน้ำนม ไม่มีอาการตึงคัดเต้านม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นสิวฝ้า ตัวบวม หรือปวดหัวจากการแพ้เอสโตรเจน"
ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะได้รับรองทางวิชาการหาก WHO องค์การอนามัยโลกยังให้การยอมรับอีกด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับหญิงที่มีสภาวะร่างกายปกติไม่มีอาการแพ้ใด ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุม สามารถเลือกที่จะใช้ยาคุมฮอร์โมนต่ำแค่ 20 ไมโครกรัมก็เพียงพอแล้ว เพราะสามารถช่วยทำให้รอบเดือนมาสม่ำเสมอ ลดอาการปวดหรือมามาก ลดความเครียดระหว่างมีประจำเดือน  ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก มะเร็งรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก กระดูกพรุน ซีสต์ที่เต้านมและรังไข่ ไปจนถึงอุ้งเชิงกรานอักเสบ และตั้งครรภ์นอกมดลูก  เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ
....................................................
ลืมกิน...ทำไงดี ?!?ลืมกิน ปัญหาที่เกิดขึ้นแสนบ่อยสำหรับสาว ๆ ที่ต้องพึ่งพิงกินยาคุม พอลืมแล้วก็แสนจะกลุ้มใจ กลัวนั่นกลัวนี่สารพัด

แต่จะบอกให้...เรื่องนี้ น.พ. สุวชัย อินทรประเสริฐ มีทางแก้
หากลืมกินยา 1 เม็ด-ให้รีบกินทันทีที่นึกได้ และให้กินเม็ดต่อไปในเวลาเดิม
หากลืมกิน 2 เม็ด - ให้กินยาวันละ 2 เม็ด ติดต่อกัน 2 วัน โดยแบ่งเป็น เช้าเม็ด-เย็นเม็ด  และควรใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วยไป 7 วัน
หากลืม 3 เม็ด - หยุดยาเสีย รอให้ประจำเดือนมาก่อนจึงเริ่มยาแผงใหม่ พร้อมกับคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วยไปอีก 7 วัน
นอกจากการลืมแล้ว หากเกิดมีอาการอาเจียน  ท้องร่วง หลังจากกินยา ′จำเป็น′ ที่จะต้องใช้การคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมไปด้วยตลอดเวลาที่มีอาการ และหลังจากนั้นไปอีก 7 วัน

Cradit : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ไฟลล์แนบ: ระดับของกลุ่มสมาชิกนี้ไม่สามารถมองเห็นไฟลล์แนบได้

TOP