1#
ใหญ่ กลาง
เล็ก โพสเมื่อ 2008-12-23 19:09
แสดงทั้งหมด
อ่านดูเพื่อสุขภาพตาของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง
ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค ' วุ้นในลูกตาเสื่อม ' ถึง 14 ล้านคน
แล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์
( นี่เฉพะาแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับ
คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก้อเป็นมากขนาดไหน ?)
ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนต
บางคนก้อเป็นแต่ไม่รู้ตัวครับ
**********************************************************
อาการก้อคือ== คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา
เหมือนคราบที่ติดกระจกน่ะครับ
จะเห็นชัดก้อต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น
ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ
จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา
*
ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลช
ในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ( น่ากลัวมากๆ)
และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ( ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม
จะตาบอดหรือไม่ ?)
**********************************************************
สาเหตุของโรคนี้คือ == ' การใช้สายตามากเกินไป ' ( เล่นคอม)
แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น
ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ
แต่เด๋วนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ
เล่นคอม
( คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เด๋วนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ
)
**********************************************************
ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก ?
ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต , เล่นเกมส์ , อ่านไดอารี่ , อ่านบทความ , อ่านหนังสือ
หรืออะไรก้อตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์
' ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น '
เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ ' ระยะห่างระหว่าง
ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน '
เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน
กล้ามเนื้อและประสาทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่
แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณ์เป็นจุดๆ ประกอบกัน
เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด
สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว
แต่เรามองผ่านมันไป )
( และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน
ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษ)
การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน
*********************************************************
บวกกับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม
ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง
เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์
หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ
แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้
มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ
จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน
แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น
มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ ( คุณสังเกตุดู)
มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตา จะต้องลากลูกตา
เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด
บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เด๋วก้ม เด๋วเงย
ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ
คุณจะปวดตามากๆๆ
อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน
สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม word
ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง ( ที่นิยมก้อคือ
ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว )
สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง
ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป
หรือไม่ก้อ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ
มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด เพราะเวลาเล่นเกมส์
ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ
เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดี
แต่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ
บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อ
จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม
จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้า
ตลอดคืนไม่รู้ตัว
************************************************************************
สรุปก้อคือ
1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน
กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก ' ทำให้สายตาเสีย '
2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต
มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ' ทำให้สายตาเสีย '
การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย
ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ
คุณจะติดนิสัย มองอะไรก้อตาม ไม่ว่าใกล้ไกล
จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก
คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส
มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย
( กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)
3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา
' ทำให้สายตาเสีย '
4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
' ทำให้สายตาเสีย '
( ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ
แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)
5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !!
( จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง
แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!)
เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12 นิ้ว)
คำที่เกี่ยวเนื่องกัน:
สุขภาพ