หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

อ่านดูเพื่อสุขภาพตาของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง

อ่านดูเพื่อสุขภาพตาของคุณเอง เป็นห่วงงงงงงงง

ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค ' วุ้นในลูกตาเสื่อม ' ถึง 14 ล้านคน
แล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์

( นี่เฉพะาแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับ
คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก้อเป็นมากขนาดไหน ?)

ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนต
บางคนก้อเป็นแต่ไม่รู้ตัวครับ

**********************************************************

อาการก้อคือ== คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา
เหมือนคราบที่ติดกระจกน่ะครับ

จะเห็นชัดก้อต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น
ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ

จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา

*

ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประสาทตาฉีกขาด คุณจะมองเห็นแสงแฟลช
ในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ( น่ากลัวมากๆ)

และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ( ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม
จะตาบอดหรือไม่ ?)

**********************************************************

สาเหตุของโรคนี้คือ == ' การใช้สายตามากเกินไป ' ( เล่นคอม)

แต่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น
ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ

แต่เด๋วนี้คนเป็นโรควุ้นในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ เล่นเนต หรือ
เล่นคอม

( คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เด๋วนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ
)

**********************************************************

ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก ?

ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต , เล่นเกมส์ , อ่านไดอารี่ , อ่านบทความ , อ่านหนังสือ
หรืออะไรก้อตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์

' ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น '



เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ ' ระยะห่างระหว่าง
ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน '

เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน
กล้ามเนื้อและประสาทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่



แต่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณ์เป็นจุดๆ ประกอบกัน
เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด

สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว
แต่เรามองผ่านมันไป )

( และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน
ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษ)

การปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน

*********************************************************



บวกกับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม
ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง

เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก้อ ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์
หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ



แต่ การเลื่อนบรรทัดนี้
มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ

จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน

แต่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้าง หรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น
มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ ( คุณสังเกตุดู)

มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตา จะต้องลากลูกตา
เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด



บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้น บางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เด๋วก้ม เด๋วเงย

ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก กว่าจะพิมพ์งานเสร็จ
คุณจะปวดตามากๆๆ



อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ ติดต่อกันข้ามคืน
สองสามวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม word

ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง ( ที่นิยมก้อคือ
ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว )

สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง
ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป



หรือไม่ก้อ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ
มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด เพราะเวลาเล่นเกมส์
ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ

เป็นสีกำแพง เป็นสีปราสาท มันจะให้สีสวยสดดี
แต่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ
บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อ

จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม

จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้า
ตลอดคืนไม่รู้ตัว




************************************************************************

สรุปก้อคือ

1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน
กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก ' ทำให้สายตาเสีย '

2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต
มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ' ทำให้สายตาเสีย '

การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เอง ที่ทำให้สายตาเสีย

ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ

คุณจะติดนิสัย มองอะไรก้อตาม ไม่ว่าใกล้ไกล
จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก

คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่สามารถปรับโฟกัส
มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย

( กล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)

3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา
' ทำให้สายตาเสีย '

4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
' ทำให้สายตาเสีย '

( ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ
แล้วทำให้สายตาเสียน่ะเอง อย่างเดียวกัน)

5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน !!

( จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง
แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ !!)

เพราะว่า สายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12 นิ้ว)

TOP