จีคลับ
เคลาดิโอ รานิเอรี ชื่อนี้เปรียบเสมือนกุนซือรถไฟเหาะตีลังกาที่เคยพาหลายๆ สโมสรผงาดสู่การเป็นแชมป์ ไปจนถึงตกต่ำร่วงโรยตามสไตล์ 'ทิงเกอร์แมน' ผู้วางแผนผิดบ้างถูกบ้างในการทำทีม
ในขณะที่กุนซือวัยดึกกำลังจะพา เลสเตอร์ ซิตี้ คั่วแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เขาไม่ได้มีดีแค่การคุมทีมอย่างเดียว แต่ยังเคยปั้นแข้งดาวรุ่งและแข้งนอกสายตาให้กลายเป็นแข้งฟอร์มเข้าตาจนสามารถคติดทีมชาติครั้งแรกได้จากฝีมือของเขา และนี่คือ 12 แข้งที่เรานึกถึง...
1. กาอิซกา เมนดิเอตา
อดีตกองหน้าสเปนที่เคยฟอร์มแรงกับ บาเลนเซีย และเคยมาค้าแข้งกับ มิดเดิลสโบรห์ ในช่วงท้ายๆ ก็เคยได้ชื่อว่าเป็นศูนย์หน้าพระกาฬคนหนึ่งของทีมค้างคาว และ
ปี 1999 ก็เป็น
ปีที่เขาติดธงกระทิงดุเป็นครั้งแรก หลังจากคว้าแชมป์ โคปา เดล เรย์ ในยุคแรกที่ รานิเอรี คุมบังเหียนวังค้างคาวแห่งเมสตาญา
2. วิลเลียม กัลลาส
สมัยอยู่ มาร์กเซย ก็แค่มีชื่อในระดับสโมสรแม้จะเคยมีดีกรีแชมป์ยุโรปชุดเยาวชนฝรั่งเศส U-18 มาก่อน แต่พอย้ายมา เชลซี ในยุคที่ รานิเอรี คุมทีมปีแรก กัลลาส ก็กลายเป็นกองหลังตัวเด่นอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นขาประจำของ เรย์มงด์ โดเมอเนค สิริรวมติดธงตราไก่ชุดใหญ่ 84 นัด ยิงไป 5 ประตู ก่อนจะอำลาทีมชาติในปี 2011
3. เฌเรมี เมเนซ
เป็นกองหน้าที่ดังกับทีมตราไก่ชุดเล็กมาก่อน แต่แทบจะไม่มีโอกาสสอดแทรกดาวดังในทีมชาติชุดใหญ่ และต้องรอจนถึงปี 2010 ในช่วงค้าแข้งอยู่กับ โรม่า จึงถูกเรียกตัวติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ครั้งแรก ที่น่าแปลกคือ เขาดูจะเป็นคน
โปรดของ โลรองต์ บลองก์ กุนซือตราไก่ในตอนนั้น มากกว่า รานิเอรี กุนซือโรม่าที่มักจะโดนดร็อปเป็นตัวสำรองเพราะเรื่องของทัศนคติที่ไม่น่าประทับใจ
4. ซานติอาโก โซลารี
ทุกคนจดจำ โซลารี ในทีมชุดขาวยุคกาแล็คติกอสมากกว่าบทบาทกับทีมชาติหรือในสโมสรอื่น แต่หลายคนอาจจำไม่ได้ว่า เขาติดธงฟ้าขาวครั้งแรกก็เมื่อตอนเล่นอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด ปี 1999 ซึ่ง รานิเอรี เข้าไปคุมทีมตราหมีช่วงสั้นๆ แค่ฤดูกาลเดียว
แต่จังหวะและชะตากลับไม่เคยพา โซลารี ขยับขึ้นไปเป็นตัวเลือกแรกๆ ในรายการใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลกหรือ โคปา อเมริกา ได้อีกเลยหลังจากนั้น
5. เอ็นโกโล ก็องเต
"มันยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับผม ผมยังรู้สึกประหม่า แต่ก็ภูมิใจและเหนือกว่าความฝันที่ผมได้สวมเสื้อทีมชาติฝรั่งเศส"
ไม่ใช่เรื่องฟลุ้คแน่ที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เรียก ก็องเต ติดธงตราไก่ครั้งแรกในปีนี้ แม้จะประเดิมด้วยเกมอุ่นเครื่องกับรัสเซียและฮอลแลนด์ แต่ก็เป็นก้าวแรกที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวเองก่อนที่ เดส์ชองส์ จะตัดสินใจคัด 23 คนสุดท้ายไป ยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสเป้นเจ้าภาพ ด้วยชื่อชั้นของคู่แข่งแย่งตำแหน่งสุดหินอย่าง ปอล ป๊อกบา และ เบลส์ มาตุยดี แต่ฟอร์มของ กองเต กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีข้อสงสัยอีกแล้วในฐานะห้องเครื่องตัวเก่งที่กำลังจะพาทีมจิ้งจอกคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้โดยมี รานิเอรี คอยกำกับเทพนิยายเรื่องใหม่เรื่องนี้อยู่
6. จานฟรังโก โซลา
ฝากผล
งานการทำประตูในทีมอัซซูรีไว้ 10 ประตู หลังจากได้แรงส่งให้ติดทีมชาติอิตาลีครั้งแรกเมื่อปี 1991 สมัยที่ยังอยู่กับ นาโปลี โดยมี รานิเอรี เป็นกุนซือในเวลานั้น แม้จะพาสโมสรทำผล
งานได้น่าผิดหวังจบฤดูกาลแค่อันดับ 7 ใน เซเรีย อา ก็ตาม
น่าแปลกตรงที่ผลงานของอิตาลีในช่วงปลายปี 90 ที่ โซลา ติดทีมชาติ กลับลุ่มๆ ดอนๆ และตกรอบ ยูโร 1996 ตั้งแต่หัววัน ก่อนจะประกาศอำลาทีมหลังจบศึกฟุตบอลโลกปี 98
7. สก็อต ปาร์คเกอร์
นักเตะเชลซีหลายคนเริ่มถูกจับตามองอย่างจริงจังในยุคที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร โดยมี รานิเอรี เป็นกุนซือเบิกร่องยุคเศรษฐี และหนึ่งในนั้นพวกเขามี สก็อต ปาร์คเกอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งเป็นตัวเลือกที่ถูกคาดหวังในทีมชาติอังกฤษของ สเวน โยรัน อีรืคสัน
ปาร์คเกอร์ ติดธงสิงโตคำรามนัดแรกในเกมอุ่นเครื่องกับออสเตรเลียปี 2003 แต่เป็นแค่ตัวสำรองเฝ้าม้านั่ง ก่อนจะได้ลงสนามนัดแรกในเกมที่พบกับ เดนมาร์ก ในนัดต่อมา และโอกาสที่ได้รับจาก รานิเอรี ต่อเนื่องในสโมสร ก็ทำให้คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของอังกฤษในปีนั้นแบบเหนือความคาดหมายพอสมควร
8. ฟรานเชสโก ตอลโด
ย้อนไปเมื่อปี 1995 สมัยที่ รานิเอรี ยังคุมทีม ฟิออเรนตินา ฟอร์มของ ตอลโด ก็เริ่มฉายแววจนถูกเรียกติดทีมชาติอิตาลีครั้งแรก เพื่อขับเคี่ยวแย่งมือ 1 กับ จานลุยจิ บุฟฟอน นายทวารพุ่งแรงของ ปาร์มา ในตอนนั้น
กราฟผลงานของ ตอลโด พุ่งขึ้นถูกจังหวะ จนได้ชื่อว่าเป็นนายทวารอิตาลีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งทั้งกับสโมสรและทีมชาติ โดยเฉพาะใน ยูโร 2000 ที่ได้ลงสนามให้อิตาลีในนัดชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศสแทนที่ บุฟฟอน ซึ่งโชคร้ายได้รับบาดเจ็บในเกมนั้น
9. เจฟฟรีย์ กงด๊อกเบีย
นักเตะโมนาโกชุดที่ขยับกลับขึ้นมาพาทีมคืนสู่เวทียุโรปอีกครั้งมีหลายคนผลงานเข้าตา ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ จนถูกเรียกตัวติดทีมชาติครั้งแรกหลายรายก็มาจากฤดูกาลที่แจ้งเกิดในยุคของ รานิเอรี เป็นส่วนมาก รวมทั้งมิดฟิลด์ดาวรุ่งอย่าง กงด็อกเบีย ที่ได้โอกาสติดธงตราไก่ครั้งแรกเมื่อปี 2013
หลังจากนั้นก็ยังถือว่าเป็นขาขึ้นต่อเรื่อง เพราะยังได้ลงเล่นใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ในชุดที่เขี่ย อาร์เซนอล ตกรอบ 16 ทีม ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาลนี้
10. เลย์แวง คูร์กซาวา
แจ้งเกิดจาก โมนาโก ในฐานะแบ็คซ้ายที่หลายคนมองว่าจะขึ้นมาเป็นตัวแทนคนใหม่ต่อจาก ปาทริซ เอฟรา ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่า เขาก็คือหนึ่งการค้นพบของ รานิเอรี ในช่วงที่คุมทีม โมนาโก แม้ก่อนหน้านั้นจะเป็นตัวหลักในทีมตราไก่ชุด U-21 อยู่แล้ว ซึ่งถ้ายังจำได้ เขาเคยสร้างวีรเกรียนกับทีมชาติสวีเดนชุดเล็กจนถูกเอาคืนอย่างแสบหลังจากไวกิ้งหนุ่มคว้าแชมป์ยูโร U-21 ไปครองเมื่อหลายปีก่อน
การแจ้งเกิดของ คูร์กซาวา ไม่ได้แค่พาให้ฝีเท้าเข้าตา ดิดิเยร เดส์ชองส์ จนติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ไปแล้ว แต่การตัดสายสะดือของ รานิเอรี ก็ยังทำให้แบ็ควัย 23 ปี เข้าตาแม้กระทั่ง เปแอสเช จนเขี่ย ลูคัส ดีญ ให้ต้องไปหาที่เล่นอยู่กับ โรม่า ในตอนนี้
11. จอห์น เทอร์รี
เจที ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2003 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เขาได้รับปลอกแขนกัปตันทีม เชลซี เป็นครั้งแรกต่อจาก มาร์กแซล เดอไซญี ซึ่งหลังจากนั้น เทอร์รี ลงสนามให้ทีมสิงโตคำราม 78 นัด ก่อนจะอำลาทีมชาติอังกฤษอย่างเป็นทางการในปี 2012
12. แดนนี ดริงค์วอเตอร์
ไม่ใช่ชื่อที่ทุกคนจะนึกถึงแน่ๆ ในแดนกลางทีมชาติอังกฤษ ที่มีทั้ง เดเล อัลลี, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือแม้แต่ แจ็ค วิลเชียร์ ลูกรักขาประจำที่หากไม่เจ็บก็คงติดธงสิงโตงวดนี้ แต่ผลงานของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังคั่วแก่ๆ ในการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก หากจะมองข้ามแดนกลางตัวปิดทองหลังพระอย่าง ดริงค์วอเตอร์ อดีตดาวรุ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงจะผิดปกติไปหน่อย และเกมอุ่นเครื่องกับเยอรมนีและฮอลแลนด์นัดต่อไปก็คือโอกาสสำคัญในการรับใช้ชาติของเขา
เดรดิต : 90min.com
เรียบเรียง :
http://www.gclub18.com
อ่านรายละเอียดต่อ :
http://blog.gclub18.com
Gclub ทางเข้าGclub ดาวน์โหลดจีคลับ ทางเข้าสโบเบ็ต sbobet เล่นสล็อต
